2024 Business Technology Trends in Thailand
This post is also available in: อังกฤษ
สรุปเทคโนโลยีธุรกิจที่สำคัญในปี 2024 ของประเทศไทยจากงาน Adman 2023
ในฐานะที่ผมได้ไปเป็นที่ปรึกษาให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม ผมพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทย (Thailand Consumer Behavior) มีความแตกต่างและเฉพาะตัวกว่าประเทศอื่น โดยในปัจจุบันพบว่า มีพฤติกรรมที่สำคัญๆได้แก่
- Short Video Consumption : คนไทยมีแนวโน้มที่จะชื่นชอบและแชร์วีดีโอสั้นๆ บนแพลตฟอร์ม TikTok, Instagram หรือ Facebook ซึ่งสะท้อนถึงการบริโภคเนื้อหาที่รวดเร็วและกระชับ
- Multi-Channel Shopping : ผู้บริโภคไทยนิยมช้อปปิ้งผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อความสะดวกและเปรียบเทียบราคา
- Fast Delivery : ความคาดหวังในการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากผู้บริโภคไทยมีความต้องการในการรับสินค้าที่สั่งซื้ออย่างทันที
- User-Generated Content: คนไทยให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่ผลิตโดยผู้ใช้งาน เช่น รีวิวสินค้า หรือ การแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว ซึ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้อื่น
- Entrepreneur : ผู้คนต่างมีความกระตือรือร้นที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจและความปรารถนาที่จะทำให้ธุรกิจของตนเติบโตและสำเร็จ คนส่วนใหญ่พยายามหาโอกาสต่อยอดไอเดียของตนเอง
- Direct-to-Fan: แนวโน้มการตลาดและการขายสินค้า ที่จะส่งตรงไปยังผู้บริโภคโดยไม่ผ่านตัวแทนหรือผู้ค้าปลีก ซึ่งสะท้อนถึงวิธีการที่ผู้ผลิตหรือครีเอเตอร์ในไทยเข้าถึงแฟนๆ ของพวกเขา.
จากพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทย (Thailand Consumer Behavior) ผมวิเคราะห์ว่า Technology Trends ที่สำคัญในปี 2024 ที่มีผลกับการทำธุรกิจในประเทศไทยมีดังนี้
- AdTech Evolution: การก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มาช่วยให้การทำโฆษณาเปลี่ยนรูปแบบ เข้าถึงลูกค้าที่เหมาะสมได้มากขึ้น และวัดผลการตลาดได้อย่างแม่นยำ
- IOT & AI Devices: อุปกรณ์ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อและประมวลผลด้วย AI ช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บข้อมูลและปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งานได้.
- Chat Bot & Virtual Assistant: ช่วยให้ธุรกิจสามารถให้บริการลูกค้าได้ตลอดเวลา ลดต้นทุนด้านบริการลูกค้า และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า.
- Multi-Platforms Commerce Technology : เทคโนโลยีที่ช่วยทำให้สามารถทำการค้าได้หลายแพลตฟอร์ม เข้าถึงลูกค้าในช่องทางต่างๆ ได้มากขึ้น ส่งผลดีต่อการขายและการรับรู้แบรนด์.
- Affiliated & Creator Economy: เทคโนโลยีในการสร้างระบบรายได้พันธมิตร และระบบการสร้างเนื้อหาช่วยเปิดโอกาสให้ผู้สร้าง มีช่องทางในการหารายได้
- Modernize Data Stack for Marketing: ระบบข้อมูลยุคใหม่ ที่มาช่วยให้นักการตลาดเก็บและสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ละเอียดและตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น.
- Unify Customer Data Strategy: กลยุทธ์การควบรวทข้อมูลลูกค้ามาเป็นเอกภาพ ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้า ส่งมอบประสบการณ์ที่ส่วนบุคคลได้ดีขึ้น
- AI-Enabler Workflow: การนำใช้ AI มาใช้ให้กระบวนการทำงานเป็นอัตโนมัติ ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพ.
AdTech Evolution
การกลับมาของ Out of Home Media (OOH): มีการนำสื่อโฆษณานอกบ้านกลับมาใช้ใหม่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้สามารถนำเสนอเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงได้ตามเวลาจริงและเป้าหมายผู้ชม. และเราสามารถทำ การควบคุม Digital Signage ผ่าน Cloud ช่วยให้การจัดการป้ายโฆษณาดิจิทัล (digital signage) เป็นเรื่องง่าย สามารถอัปเดตเนื้อหาและกำหนดค่าจากระยะไกลได้
ระบบควบคุม Digital Signage ผ่าน Cloud ของ
https://www.yodeck.com/how-it-works/
Advertising Distribution & Optimization สามารถปรับเปลี่ยนแคมเปญโฆษณาอัตโนมัติ เช่น
การเปิด/ปิดแคมเปญอัตโนมัติ ตามประสิทธิภาพของโฆษณา หรือการเปลี่ยนแปลงงบประมาณตามผลลัพธ์ของโฆษณา
ภาพการทำงานของเครื่องมือ AI Ads Optimization Madgicx : สมัครทดลองใช้งาน
Creative Insight : การวัดประสิทธิภาพของ Creative สามารถทำได้ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยให้เข้าใจถึงวิธีการใช้ภาพ และสีเพื่อประสิทธิภาพCreative ได้ลึกขึ้น
เครื่องมือ Adcreative.ai ที่มีความสามารถในการวัดประสิทธิภาพของงานออกแบบ : สมัครใช้งานที่นี่
การใช้ Generative AI ช่วยเหลือ: AI ที่สามารถสร้างเนื้อหาได้ (Generative AI) กลายเป็นเครื่องมือที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์โฆษณาและเนื้อหาโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่าง : การให้ ChatGPT สร้างเนื้อหา “Copy Ads 5 แบบสำหรับ Facebbok Post นำเสนอโรงแรมที่อยู่ติดหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต”
IOT & AI Devices
ความก้าวหน้าในด้านของ IoT (Internet of Things), Wearables และ AI Devices ได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่เราเชื่อมต่อและโต้ตอบกับเทคโนโลยีไปอย่างมาก สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการเก็บข้อมูลลูกค้าและรูปแบบการโฆษณาใหม่ๆ ดังนี้:
ช่องทางการเก็บข้อมูลลูกค้า: IoT และอุปกรณ์สวมใส่ช่วยเก็บข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมและความชอบของลูกค้า ซึ่งสามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมการขายและปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้.
New Advertising Formats: การใช้จอแสดงผลบนตู้กดสินค้า เป็นตัวอย่างของการโฆษณาใหม่ที่ใช้การ hyper-personalization โดยจะแสดงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการซื้อหรือความสนใจของลูกค้า.
IOT Trigger Advertising: อุปกรณ์สามารถตรวจจับการตอบสนองของลูกค้าและเปิดใช้งานการโฆษณาที่เหมาะสมได้อัตโนมัติ สร้างประสบการณ์ที่เกี่ยวพันกับความต้องการของพวกเขา.
การสื่อสารแบบ Personalization ในโลก Offline: การใช้เทคโนโลยีในร้านค้าแบบออฟไลน์ เช่น kiosks ที่ลูกค้าสามารถปรับแต่งสินค้าได้เอง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ส่วนตัวและเป็นส่วนตัวมากขึ้น.
McDonald’s kiosks ลูกค้าสามารถเลือกส่วนผสมและปรุงแต่งอาหารของตนเองได้ ซึ่งเพิ่มความพึงพอใจและความภักดีต่อแบรนด์.
AI Pin: อุปกรณ์ใหม่ที่อาจเข้ามาเสริมหรือแทนที่การใช้งานสมาร์ทโฟนในบางสถานการณ์ เช่น อุปกรณ์สวมใส่ที่มีความสามารถในการปฏิสัมพันธ์กับ AI และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันที.
Chat Bot & Virtual Assistant
การใช้ OpenAI ทำให้สร้าง Bot ได้ง่ายขึ้น: เทคโนโลยีจาก OpenAI ทำให้การสร้าง chatbots ที่มีความซับซ้อนน้อยลง โดยให้ความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวเองเพื่อตอบสนองคำถามหรือปฏิบัติงานต่างๆ.
Rule-Based to NLP : การเปลี่ยนจากระบบที่ต้องอาศัยกฎ (rule-based) ไปเป็นการใช้ Natural Language Processing (NLP) ทำให้ chatbots สามารถเข้าใจและตอบสนองคำถามซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น.
การใช้ Chat Bot ในการปิดการขาย ผสมกับความสามารถด้าน Payment: การรวมการชำระเงินเข้ากับ chatbots ทำให้พวกเขาสามารถช่วยในการปิดการขายได้โดยตรง และเสนอตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้า.
GPT-4 สำหรับการสร้าง GPT ส่วนตัวและ Knowledge Management (KM): การใช้ GPT-4 ในการสร้าง chatbots ที่เฉพาะเจาะจงตามความต้องการของธุรกิจสามารถช่วยในการจัดการความรู้ และให้ข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัยแก่ลูกค้าและพนักงาน.
Multi-Platforms Commerce Technology
ปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆ ขยายการขายของตนไปยังหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์, แอปพลิเคชันมือถือ, โซเชียลมีเดีย, แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ, และแม้กระทั่งตลาดออฟไลน์ เทคโนโลยีจัดการ Order ต่างๆ จึงมาช่วยทำให้สามารถทำการค้าได้หลายแพลตฟอร์ม เข้าถึงลูกค้าในช่องทางต่างๆ ได้มากขึ้น ส่งผลดีต่อการขายและการรับรู้แบรนด์
Content Distribution & Scheduling เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการและเผยแพร่เนื้อหาทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้สามารถสร้าง, จัดเก็บ, และจัดการเนื้อหาในที่เดียว ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงและปรับปรุงเนื้อหา และสามารถกำหนดตารางเวลาในการเผยแพร่เนื้อหาไปยังช่องทางต่าง ๆ อย่างโซเชียลมีเดีย, บล็อก, หรือเว็บไซต์ โดยอัตโนมัติ.
MarTech Stacks Integration
คือการบริหารจัดการ Order และ Channels ต่างๆเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การรวมการสื่อสารกับลูกค้าผ่านแชทและการค้าขายผ่านแชท, การใช้งาน Chat Bots เพื่อการตอบสนองแบบอัตโนมัติ, การใช้แพลตฟอร์มโฆษณาเพื่อดึงดูดลูกค้า, การวิเคราะห์ผลลัพธ์การตลาดเพื่อตัดสินใจ,
การบูรณาการระบบจัดการคำสั่งซื้อ (Order Management Platform) และการจัดการคลัง และการใช้ระบบ ERP ในการบูรณาการข้อมูลและกระบวนการต่างๆ ในองค์กร
Affiliated & Creator Economy
Affiliate Marketing Frameworks จากหนังสือ “50 Marketing Frameworks มองการตลาดภาพใหญ่ให้ธุรกิจไปถูกทิศ”
การทำการตลาดแบบที่ผู้ลงโฆษณาหรือ Advertiser จ่ายค่าโฆษณาให้กับผู้เผยแพร่โฆษณา หรือ Publisher ตาม Performance ที่ตกลงกันไว้ เช่น เขียนบทความ รีวิวสินค้า หรือติดแบนเนอร์ตำแหน่งต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ในสื่อหรือแพลตฟอร์มของผู้เผยแพร่โฆษณาเอง เช่น เว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, โซเชียลแอปพลิเคชัน
Affiliate Saas : การสร้าง Affiliate เองสามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วยการใช้ SAAS: การใช้ซอฟต์แวร์เป็นบริการ (SAAS) ช่วยให้การเริ่มต้นโปรแกรม Affiliate ของตนเองง่ายขึ้น ไม่ต้องมีทักษะเทคนิคหรือทรัพยากรมากมาย.
ในด้านที่Affiliate Marketing เริ่มเข้ามามีบทบาทกับกลุ่ม Creator Economy มากขึ้นเรื่อยๆได้แก่
ระบบตัวแทนขายที่เปลี่ยนไป: ในยุค Creator Economy, ผู้สร้างเนื้อหาไม่จำเป็นต้องสต็อกสินค้าเอง แต่สามารถส่งเสริมสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และได้ค่าคอมมิชชั่น, แค่มีแฟนด้อม ใครๆก็หารายได้เสริมได้: ผู้ที่มีฐานแฟนคลับสามารถสร้างรายได้ผ่านการส่งเสริมสินค้าหรือบริการที่ไม่ต้องมีสต็อกเอง.
ระบบ Modeling ยุคใหม่ TikTok MCN: TikTok และ Multi-Channel Networks (MCNs) ให้โอกาสในการสร้างและกระจายเนื้อหาที่สามารถทำรายได้ผ่านการเป็นพันธมิตร.
Modernize Data Stack for Marketing
ระบบข้อมูลยุคใหม่ ที่มาช่วยให้นักการตลาดเก็บและสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ละเอียดและตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น
Capturing Engagement Data : การดึงข้อมูล Engagement กลับมาเก็บ: การมีระบบที่สามารถวิเคราะห์และเก็บข้อมูล Engagement จากลูกค้า เช่น การคลิก, การดู, หรือการโต้ตอบผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นสิ่งสำคัญเพื่อเข้าใจพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ข้อมูลนี้ช่วยให้สามารถปรับแต่งกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น
Retrieving Data on Ads Settings : การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโฆษณา รวมถึงการปรับตั้งและวิธีการที่ใช้ในแคมเปญโฆษณา มีความสำคัญในการวิเคราะห์ว่ากลยุทธ์ใดได้ผลหรือไม่ได้ผล การมีข้อมูลที่แม่นยำช่วยให้สามารถปรับปรุงและคิดค้นวิธีการโฆษณาใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Data Warehouse Designed for Advertising : ระบบคลังข้อมูลที่ออกแบบสำหรับงาน Advertising: การมีคลังข้อมูลที่สร้างขึ้นเพื่องานโฆษณาโดยเฉพาะช่วยให้สามารถจัดเก็บ, วิเคราะห์, และเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณาได้อย่างมีระบบ ข้อมูลที่ได้มาจะช่วยให้ตัดสินใจและปรับปรุงแคมเปญโฆษณาได้ดียิ่งขึ้น
Strengthening Agency’s Own Position : การมีระบบข้อมูลที่ทันสมัยสำหรับการตลาดช่วยให้เอเจนซี่สามารถเสนอบริการที่เหนือกว่าและแตกต่างจากคู่แข่ง การสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างละเอียดและการมีข้อมูลเชิงลึกช่วยให้สามารถสร้างแคมเปญที่มีประสิทธิภาพและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้
Unify Customer Data Strategy
กลยุทธ์การควบรวมข้อมูลลูกค้ามาเป็นเอกภาพ ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้า ส่งมอบประสบการณ์ที่ส่วนบุคคลได้ดีขึ้น
Measure E-commerce Drop-Off : การทราบจุดที่ลูกค้าเลิกทำการซื้อ (Drop Off) ในกระบวนการซื้อขายออนไลน์เป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจปัญหาและปรับปรุงกระบวนการขายให้ดีขึ้น
Identifying Customers as the Same Person : การระบุตัวตนลูกค้าให้สามารถตรวจสอบได้ว่ากิจกรรมที่แตกต่างกันบนแพลตฟอร์มต่างๆ เป็นของลูกค้าคนเดียวกันช่วยให้เข้าใจลูกค้าแต่ละคนได้ดียิ่งขึ้น
Measuring Diverse Conversion Metrics: การวิเคราะห์ข้อมูล Conversion ในหลายรูปแบบช่วยให้เข้าใจว่าแคมเปญใดทำงานได้ดีและแคมเปญใดที่ต้องปรับปรุง และการ Utilizing Insights for Campaigns การนำ Insight ออกไปทำ Campaign: การนำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์มาสร้างแคมเปญทำให้แคมเปญนั้นมีความเหมาะสมและตรงจุดมากขึ้น
AI-Enabler Workflow
AI-Enabler Workflow เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในองค์กรต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างและปรับแต่งการออกแบบกราฟิก ช่วยในการวางแผนด้านการสร้างคอนเทนต์ ช่วยตรวจสอบคำผิดและการใช้ภาษาในเอกสาร โดยมีขั้นตอนสำคัญๆดังนี้
- AI-enabler manual: คู่มือการใช้งานที่แสดงวิธีการใช้ AI ในกระบวนการทำงานต่างๆ
- Photography and Editing Process: ขั้นตอนในการถ่ายภาพ และกระบวนการแก้ไขภาพด้วยการใช้ AI
- Camera Setup: การตั้งค่ากล้องเพื่อการถ่ายภาพที่เหมาะสมกับการประมวลผลด้วย AI
- Dicut Photography: กระบวนการถ่ายภาพด้วยเทคนิค Dicut ซึ่งอาจรวมถึงการตัดต่อหรือแยกวัตถุออกจากฉากหลัง
- Background Alteration: การเปลี่ยนแปลงฉากหลังของภาพโดยใช้ AI
- Category-based Themes: การจัดกลุ่มธีมภาพตามหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องด้วย AI
ตัวอย่างการทำ intelligent document processing with generative AI จาก AWS
- Consistent Lighting: การรักษาความสม่ำเสมอของแสงในการถ่ายภาพเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเมื่อใช้ AI
- Naming Convention: การตั้งชื่อไฟล์ ที่สอดคล้องกับมาตรฐาน เพื่อการจัดการที่ง่ายขึ้นในระบบ AI
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หนังสือทั้ง 3 เล่มนี้
👉 หนังสือ 50 Marketing Frameworks
👉 หนังสือ The Age of Chief Marketing Technologist 2022
👉 หนังสือ Marketing Technology Trend 2022