Cookie คืออะไร

Cookie คืออะไร ทำงานอย่างไร ใช้ทางการตลาดอย่างไร

ถ้าคุณเคยเข้าเว็บไหนแล้วมันจำ User Login, ตั้งค่าภาษา หรือพฤติกรรมการใช้งานของคุณได้ นั่นแหละ Cookie กำลังทำงานอยู่เบื้องหลัง

ลองนึกภาพว่า Cookie คือ “โน้ตเล็ก ๆ” ที่เว็บไซต์ฝากไว้ใน Browser ของคุณ เพื่อให้มันจำอะไรบางอย่างได้ เช่น
✅ คุณเคย Login ไปแล้วไหม?
✅ คุณใส่อะไรไว้ใน Shopping Cart?
✅ จำค่าการตั้งค่า เช่น ภาษา หรือธีมของเว็บไซต์
✅ จำข้อมูลล็อกอินเพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องใส่รหัสผ่านใหม่ทุกครั้ง

ในทางเทคนิค คุกกี้ (Cookie) เป็นไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บเซิร์ฟเวอร์ส่งไปยังเว็บเบราว์เซอร์ของผู้ใช้และถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน คุกกี้ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้ เช่น การตั้งค่าผู้ใช้ ประวัติการเข้าชม หรือข้อมูลการล็อกอิน เพื่อให้เว็บไซต์สามารถระบุและให้ประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นในการเข้าชมครั้งต่อไป

1️⃣ จดจำสถานะการล็อกอิน (Login Sessions) – เมื่อผู้ใช้ล็อกอินเข้าเว็บ คุกกี้จะเก็บ Session ID เพื่อให้ไม่ต้องใส่รหัสผ่านใหม่ทุกครั้งที่เปิดหน้าเว็บ
2️⃣ บันทึกการตั้งค่าผู้ใช้ (User Preferences) – คุกกี้ช่วยจำ ภาษาที่เลือก, ธีมสี, รูปแบบการแสดงผล ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่เหมาะกับตัวเอง
3️⃣ ตะกร้าสินค้า (Shopping Cart) – ใน E-commerce คุกกี้ช่วยให้สินค้าที่เพิ่มลงตะกร้า ยังคงอยู่ แม้ผู้ใช้จะออกจากเว็บแล้วกลับมาใหม่
4️⃣ Auto-fill แบบฟอร์ม (Form Autofill) – คุกกี้สามารถบันทึก ข้อมูลที่เคยกรอก เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องพิมพ์ใหม่ทุกครั้ง
5️⃣ แนะนำคอนเทนต์หรือสินค้า (Personalized Recommendations) – คุกกี้ติดตามพฤติกรรมการดูเนื้อหา หรือสินค้าที่สนใจ และใช้ข้อมูลนั้นเพื่อแสดง แนะนำบทความ โฆษณา หรือสินค้า ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้

คุกกี้เริ่มจากการเป็นเครื่องมือช่วยจำข้อมูลพื้นฐานของเว็บไซต์ ก่อนจะกลายเป็นหัวใจของ Digital Marketing & AdTech ในการติดตามพฤติกรรมและปรับแต่งโฆษณาแบบ Personalized เช่น

ตัวอย่างการใช้ Cookie ทำ Retargeting แสดงโฆษณาสินค้าไปหาผู้ที่เคยเข้ามาดูสินค้าในเว็บไซต์

📌 Personalized Ads – ใช้ข้อมูลจากคุกกี้เพื่อแสดงโฆษณาตามพฤติกรรมการใช้งาน
📌 Retargeting – แสดงโฆษณาสินค้าที่ผู้ใช้เคยดูแต่ยังไม่ได้ซื้อ
📌 Website Analytics – ใช้คุกกี้เก็บข้อมูลผู้ใช้เพื่อวิเคราะห์และพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้น

ตัวอย่างการใช้ Cookie ของ Google Analytics ที่สามารถเชื่อมโยงกับ Google Ads เพื่อวัดประสิทธิภาพโฆษณา

🔹 Session Cookies – คุกกี้แบบชั่วคราวที่ถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ จนกว่าจะปิดเบราว์เซอร์ เหมาะสำหรับการจดจำข้อมูลขณะใช้งาน เช่น รถเข็นสินค้าใน E-commerce
🔹 Persistent Cookies – คุกกี้ที่ยังคงอยู่แม้ปิดเบราว์เซอร์ มีวันหมดอายุที่กำหนด ใช้สำหรับจดจำข้อมูลในระยะยาว เช่น การล็อกอินอัตโนมัติ หรือการตั้งค่าภาษาบนเว็บไซต์
🔹 First-party vs. Third-party Cookies

  • First-party Cookies – ถูกสร้างโดยเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เยี่ยมชมโดยตรง ใช้สำหรับ บันทึกพฤติกรรมในเว็บไซต์เดียว เช่น Google Analytics
  • Third-party Cookies – ถูกสร้างโดยโดเมนอื่น (เช่น Ad Network) เพื่อติดตามผู้ใช้ ข้ามเว็บไซต์ ใช้ในการโฆษณาแบบ Retargeting และ Programmatic Ads


Cookie Policy คือ เอกสารหรือหน้าข้อมูล บนเว็บไซต์ที่อธิบายว่าเว็บไซต์นั้นใช้คุกกี้อะไรบ้าง ใช้เพื่ออะไร และเก็บข้อมูลผู้ใช้อย่างไร 📜 เพื่อแสดงว่าธุรกิจของเรา
✅ ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น PDPA (Thailand) GDPR (EU), CCPA (US) ที่กำหนดให้ต้องแจ้งและขอความยินยอมจากผู้ใช้
✅ เพิ่มความโปร่งใส ให้ลูกค้ารู้ว่าเว็บใช้คุกกี้อย่างไร และให้ตัวเลือกในการจัดการคุกกี้
✅ สร้างความน่าเชื่อถือ ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับ Privacy จะได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้มากขึ้น

โดยประเภทของ Cookie ที่ต้องแจ้งให้ผู้ใช้งานรับทราบคือ
1️⃣ Performance Cookies – คุกกี้ที่ช่วยวิเคราะห์และวัดผลการทำงานของเว็บไซต์ เช่น ตรวจสอบว่าผู้ใช้โต้ตอบกับหน้าเว็บอย่างไร ใช้เวลาอยู่บนเว็บนานแค่ไหน และช่วยให้เว็บไซต์ปรับปรุงประสิทธิภาพได้
2️⃣ Functional Cookies – คุกกี้ที่ช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานของเว็บไซต์ เช่น จำค่าการตั้งค่าของผู้ใช้ (ภาษา, ธีม, การตั้งค่าบัญชี) ทำให้ประสบการณ์การใช้งานราบรื่นขึ้น
3️⃣ Advertising Cookies – คุกกี้ที่ใช้สำหรับการโฆษณาและการตลาด โดยช่วยแสดงโฆษณาตามความสนใจของผู้ใช้และติดตามพฤติกรรมออนไลน์เพื่อปรับแต่งโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

นักการตลาดต้องปรับตัวยังไงในยุค Cookieless?

เมื่อ Third-party Cookies กำลังหายไป นักการตลาดต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้ยังสามารถติดตามและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ 👇
🔹 การใช้ First-party Data อย่างมีประสิทธิภาพ
First-party Data คือ ข้อมูลที่ธุรกิจเก็บเองโดยตรงจากลูกค้า เช่น ข้อมูลจากเว็บไซต์ แอปฯ CRM หรือแบบฟอร์มสมัครสมาชิก กลยุทธ์ที่ต้องทำคือพัฒนาระบบเก็บข้อมูล เช่น ใช้ CDP (Customer Data Platform) เพื่อรวมข้อมูลลูกค้าทุกช่องทาง หรือสร้าง Engagement กระตุ้นให้ลูกค้าสมัครสมาชิก หรือกรอกข้อมูลด้วยข้อเสนอที่มีคุณค่า
🔹 Server-side Tracking vs. Client-side Cookies: อันไหนดีกว่า?
ควรเริ่มย้ายจาก Client-side ไปเป็น Server-side Tracking เพื่อรองรับอนาคตของ Digital Marketing โดย ลดการพึ่งพาเบราว์เซอร์ ป้องกันปัญหาการบล็อกคุกกี้, เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล เพราะข้อมูลถูกส่งตรงจากเซิร์ฟเวอร์, ปรับแต่งได้มากขึ้น นักการตลาดสามารถกำหนดว่าจะเก็บข้อมูลอะไรบ้าง
🔹 Consent Management Platform (CMP): วิธีขอความยินยอมจากผู้ใช้
แสดง Cookie Banner เพื่อแจ้งผู้ใช้และให้ตัวเลือกจัดการคุกกี้, บันทึกและจัดการ Consent เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้าน Privacy, เชื่อมต่อกับ Analytics & Ad Platforms เพื่อให้โฆษณาทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย


Contact Us for Marketing and Technology Consulting

Email : [email protected]

Similar Posts