16 เครื่องมือ AI สำหรับงาน Creative

จากการที่ผมได้ไปพูดในเซสชั่น 👉🏻 “How MarTech & Data Drive Creativity” มาร์เทคและดาต้าช่วยขับเคลื่อนการทำงานสร้างสรรค์ได้อย่างไร ในงาน Creative Talk Conference 2022 “The Future of Everything”

แต่ด้วยเวลาที่ค่อนข้างจำกัด จึงไม่อาจบรรยายถึงเครื่องมือแต่ละกลุ่มได้ละเอียด วันนี้จึงขอยก 6 กลุ่ม 16 เครื่องมือ MarTech และ AI ที่ผมเชื่อว่าจะมีบทบาท กับคนในแวดวง Creative อย่างแน่นอน

1. Research Idea Technology

การใช้มาร์เทคและดาต้าในการหาไอเดียในการสร้างสรรค์งานครีเอทีฟ ได้แก่
1.1 Social Listening Analysis กวาดใช้เครื่องมือมาร์เทคกวาดหาการพูดถึงสินค้า หรือบริการของเรา ว่ามีการพูดถึงในบริบทไหนบ้าง สามารถนำมาพลิกแพลงสร้างครีเอทีฟหรือคอนเทนท์ได้อย่างไรบ้าง

และสามารถใช้เครื่องมือนี้ติดตาม Trends ใหม่ๆทั่วโลกได้ว่า มีประเด็นอะไรกำลังอยู่ในการสนใจของผู้คน เพื่อททางเราจะนำมาทำ ครีเอทีฟ คอนเทนท์ ในเชิง Real-time Marketing หรือเกาะกระแสการตลาดได้

mandala-cosmos-trend
เครื่องมือ Cosmos สำหรับติดตามเทรนด์ล่าสุด เพื่อทำ Real-time Marketin

สมัครใช้งาน Mandala Social Listening

1.2 Sharable Content ใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ว่า Creative แบบไหน มักจะถูกแชร์

sharecount result

SharedCount เครื่องมือ MarTech ที่มีความสามารถในการนับจำนวน Social Engagement ของ URL ได้เหมือนๆกับการ Facebook Sharing Debugger แต่ที่ SharedCount โดดเด่นกว่า Facebook Debugger ก็คือความสามารถในการแยกประเภทของ Engagement แต่ละประเภทได้ชัดเจน

จากภาพด้านล่าง เราลองหาข้อมูลว่า Content ในเว็บของ “การตลาดวันละตอน” Content ไหนที่ได้รับการแชร์ใน Facebook สูงที่สุด เพื่อเป็นการวิเคราะห์ว่ากลุ่มเป้าหมายของ การตลาดวันละตอน สนใจเนื้อหาประเภทไหนที่สุด

share 021-05-23 at 21.33.31

1.3 Content Topic Research การใช้เครื่องมือหาไอเดียการประกอบหัวข้อบทความ

การใช้ Answerthepublic ในการสร้างสรรค์รูปแบบประโยค ให้น่าสนใจ
โดย Answerthepublic เป็นTool ที่ทำงานง่าย แค่กรอกKeyword /Topics ที่เราสนใจลงไป ระบบจะแนะนำ Content topics มาให้ในรูปแบบคล้ายๆ mind-map ที่เราเคยเรียน

keyword-answerthepublic-topic
Content Idea Research โดยการใช้ Answerthepublic สร้างสรรค์รูปแบบประโยคให้น่าสนใจ

2. AI Creative generator

การใช้ความสามารถของ AI ในการสร้างสรรค์ชิ้นงาน creative ได้อย่างรวดเร็ว
2.1 การออกแบบ Logo ด้วย AI
ปัจจุบัน AI มีความสามารถสูงมากๆ เราสามารถออกตราสินค้า หรือ Logo ด้วยเครื่องมือมาร์เทคได้เลย จากภาพด้านล่าง Looka (formerly Logojoy) ที่เปิดให้เราสามารถเลือกรูปแบบสี รูปแบบ Icon แล้ว AI จะมีการสร้าง Logo ให้ได้เลย

ทดลองเล่นได้ที่ www.looka.com


2.2 การสร้าง Brand Book ด้วย AI
นอกจากการใช้ Martech และ AI สร้าง Logo แล้ว brandmark ยังสามารถสร้าง Brand Book หรือคู่มือการทำแบรนด์ในระยะเวลาแค่พริบตา โดยแค่ระบุชื่อ เลือกโทนสี ทาง www.brandmark.io ก็จะมีการ generate Logo และวิธีการนำ Logo ไปใช้กับสื่อต่างๆได้เกือบครบถ้วน ตามตัวอย่าง

เลือกสไตล์สี
จ่ายแค่ $65 ก็สามารถจะมี Brand Book ของตัวเอง
brandmark.io สร้าง Stationary หรือหัวจดหมายให้ครบถ้วน
brandmark.io สร้าง Presentation Template ให้

ทดลองเล่นได้ที่ www.brandmark.io

2.3 การใช้ AI เขียน Uniquely Content ที่ไม่ซ้ำใครด้วย AI
อีก 1 ความสามารถของ AI ในปัจจุบัน ที่มีการพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว บทความที่เขียนโดย ​AI เริ่มฉลาด สละสลวย ใกล้เคียงกับการใช้คนเขียนมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะบทความภาษาอังกฤษ ที่ผมได้ลองแล้วรู้สึกว่าใกล้เคียงคนจริงๆเขียนมากๆ

ตัวอย่างการใช้เครื่องมือชื่อ ai-writer.com ในการเขียนบทความจากการระบุคีย์เวิร์ดว่า “Tiktok Marketing” จะเห็นได้ว่า ai-writer.com มีการ generate บทความออกมาได้อย่างละเอียด มีบริบทสวยงามเสมือนคนจริงๆเขียนมากๆ


2.4 AI generated image
ปัจจุบัน การสรรหารูปภาพเพื่อนำมาใช้งานประกอบในสื่อโฆษณาต่างๆ นอกจากการหาใช้งานรูปภาพจากการเช่า Stock รูปภาพแล้ว การใช้เครื่องมือ AI ในการสร้างภาพประกอบ ก็เป็นทางเลือกนึงในการหาภาพมาใช้งาน

ตัวอย่างการสร้างหน้าคนจาก https://generated.photos/ ที่เราสามารถนำไปใช้งานได้ทันที

หรือสามารถเลือกใช้งานภาพหน้าคนที่ AI สร้างไว้พร้อมใช้มากกว่า 2 ล้านภาพ


3. Creative Ads Management

การบริหารจัดการงานโฆษณาออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น

3.1 Display Banner Generator
เครื่องมือ Martech ที่สามารถสร้าง Display Banner และ Social Creative Ads หลากหลายขนาดได้อย่างรวดเร็ว

ตัวอย่าง เครื่องมือชื่อ creatopy ที่มี Display Banner Templates ให้เลือกใช้หลากหลายขนาด

Display Banner Generator

หลังจากเลือก Template แล้ว เราสามารถเปลี่ยนข้อความ, เปลี่ยนรูปภาพในด้านซ้าย ข้อมูลทั้งหมดใน Banners ทุก Sizes (ด้านขวา) จะเปลี่ยนตาม

สามารถ Export ไฟล์ออกมาได้ครบทุกขนาด ทดลองเล่นได้ที่ https://www.creatopy.com/


3.2 Ads Management การบริหารจัดการโฆษณาในที่เดียว

AdRoll เครื่องมือบริหารจัดการ Ads อีกตัวที่มาแรงโดยความสามารถของ AdRoll คือ เครื่องมือ Ads Management ที่มี Free Version ให้ใช้ แบบครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น

• จัดการ Facebook Ads & Display Ads ได้ที่เดียว
• ทำ Retargeting Ads ได้ และจัดการ Pixel โดย GTM Integration ทะลุไป Publish ได้เลย
• มี UTM Link Builder ในตัว ทำให้ Track Cross Channels (Click) ได้เลย
• มีการจัดเก็บ Contact List ที่จัด Segmentations ได้เหมือน CRM ย่อมๆ
• ส่ง Email Automate ได้ 5,000 / Month
• สร้าง Ads Creative ได้แบบ Drag & Drop


4. Creative Experiments Testing

การใช้ Martech ในการทดสอบประสบการณ์หลากหลายรูปแบบ
4.1 Spit Testing หรือวัดประสิทธิภาพ Creative ด้วยการหาผู้ชนะจาก A/B Version

ตัวอย่างการทำงาน A/B Testing จาก https://towardsdatascience.com/

ตัวอย่างการทำ A/B Testing ง่ายๆ เพื่อวัดผลว่าปุ่มสีเขียวหรือน้ำเงิน มี Conversion Rate ที่ดีกว่ากันด้วย vwo.com


4.2 Multivariate Testing เครื่องมือมาร์เทคสามารถนำ Images และ Captions ที่เรามีการอัพโหลดไว้ใน Library จำนวนมาก ออกไปประกอบเป็น Creative Adsใหม่ได้ไม่จำกัดจำนวน

การวัดประสิทธิภาพ Creative แบบ Multivariate Testing จาก https://conversion-uplift.co.uk


4.3 Personalization เครื่องมือมาร์เทคปรับเปลี่ยน Content ให้ Relevant กับกลุ่มเป้าหมายตามเงื่อนไข Digital Behavior ที่กำหนดไว้ได้

google-optimize
การใช้ optimize.google.com ในการทดสอบว่าคนมีส่วนร่วมกับ Creative แบบไหนมากกว่ากัน

5. Creative Analysis Tools

วัดประสิทธิภาพของ ​Creative แต่ละรูปแบบได้ง่ายดาย ใช้ตัวเลขอ้างอิง
5.1 Dynamic Creative Optimization การปรับปรุงรูปแบบครีเอทีฟตามดัชนีตัวเลขที่ต้องการ

ตัวอย่างการใช้ AI วัดผลแต่ละ Creative จาก roihunter


5.2 Heatmap Analysis การวิเคราะห์ความสนใจของงานครีเอทีฟจากการตรวจจับการดู หรือการคลิก

เครื่องมือตรวจจับพฤติกรรมการเลื่อนเมาส์ คลิก หรือการมองของลูกค้า และแปลงออกมาเป็นภาพ โดยการเคลื่อนไหวต่างๆจะถูกบันทึกเป็นดาต้า แล้วทำออกมาเป็นภาพ Visualize ตามสี โดยตำแหน่งที่ผู้ใช้งานเลื่อน หรือคลิกเยอะๆจะมีสีร้อน (Heatmap) นั่นเอง

เครื่องมือที่แนะนำให้ลองใช้คือ Smartlook

6. No Code illustrator


Blush คือเครื่องมือประเภทโนโค้ดที่เปิดให้เราสามารถปรับแต่งไฟล์เวคเตอร์ หรืออิลลัสเตรเตอร์ได้แบบละเอียด โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้ง Graphic Software ลงเครื่องคอมอีกต่อไป

ทดลองเล่นฟรีได้ที่ https://blush.design/

Drawtify.com/ ก็เป็นเครื่องมือที่เปิดให้เราแก้ไขไฟล์เวคเตอร์ ได้อย่างอิสระและเอาไปใช้งานได้โดยง่าย


ติดต่อขอรับคำปรึกษาด้าน Marketing และ Technology

  • ให้คำปรึกษาตั้งแต่การวาง Technology Roadmap
  • การเลือกเครื่องมือที่ตอบโจทย์ธุรกิจที่สุด
  • การวาง Data Foundation ให้รองรับสเกลของธุรกิจ
  • การ Implement Platform อย่างมีระบบ
  • การทำ Change Management และการติดตามการ Adoption
  • ควบคุมการบริหารโครงการด้วยผู้มีประสบการณ์ตรง
  • รับจำนวนจำกัดไม่เกิน 2 Projects / เดือน

Email : [email protected]

Similar Posts