ipaas

4 MarTech กลุ่ม iPaas – Integration as a service

ท่ามกลางการพัฒนาของ Technology ที่มีความฉลาด และสร้างจุดแข็งทางการตลาดมากมาย กลับทำให้เรามีงานใหม่งอกขึ้นมา คือการ Integration ระบบต่างๆเข้าด้วยกันนั่นเอง กล่าวถึงงาน Integration ในปัจจุบัน มักจะต้องอาศัยทักษะของ Programmer / Developer ในการ Coding ระบบการเชื่อมต่อขึ้นมา โดยที่ใช้ๆกันหลักๆจะมีอยู่ 2 รูปแบบคือ API และ Webhooks

  • API หรือย่อมาจาก Application Programming Interface คือการเขียนระบบเชื่อมต่อระหว่าง Web หรือ Mobile Application ของเรากับ Service ของคนอื่นๆ
  • Webhooks ต่างออกไปตรงที่ จะทำงานเฉพาะเมื่อเจอ Event ที่เรากำหนด และเมื่อเจอ Event นั้นแล้วค่อยส่ง POST request มาบอกเรา

ตัวอย่างการส่ง Webhooks จาก Mailchimp มาที่ Application ของเราเอง

แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการใช้ API หรือ Webhooks ก็ตาม ก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของ Programmer / Developer ในการต้องศึกษาเอกสาร หรือเงื่อนไขการใช้ API หรือ Webhooks ของ Application ต่างๆโดยละเอียด และยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาระบบ Integration อีกด้วย

จึงมี MarTech กลุ่มนึงที่วางตำแหน่งตัวเองว่าเป็น Data Integration Platform หรือบางบริษัทก็จะนิยามตัวเองเลยว่า iPaas หรือ Integration Platforms As A Service เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้อินทิเกรทดาต้า ได้โดยง่ายแค่คลิกไม่กี่ที

โดย Platform เหล่านี้ ได้เจรจาต่อรอง กับ MarTech ชื่อดังหลายๆเจ้า ในการเปิดช่องทางเชื่อมต่อไว้ให้เราอยู่แล้ว ในฐานะ Business User ก็สามารถเข้าไปใช้งาน Integration เหล่านั้นได้ทันที แค่ Log-In ระบบต่างๆเชื่อมต่อกัน

และiPaas บางตัวยังมีความสามารถด้าน Data ขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการกำหนดเงื่อนไข Extract, Transform, Loader หรือ Data ETL ได้อีกด้วย

ipaas

1. Automate.io เป็น MarTech สาย iPaaS ที่มีขนาดเล็กๆ ย่อมเยาว์ จุดเด่นคือการสร้าง Integration หรือที่ Automate.io เรียกว่า “Bots” ได้โดยง่าย โดยการใช้งานครั้งแรก  Automate จะถามเราว่า เรามีการใช้ Application อะไรอยู่บ้าง

ภาพตัวอย่าง เบื้องต้นเลย Automate.io จะมี Application ของเค้าเอง พร้อมให้เราใช้งานอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น

Automate.io
  • Email : ใช้ในการ Automate จากเงื่อนไขที่เกิดขึ้นใน Email ต่างๆ
  • Filters การเลือก Automate ตามตัวแปลหรือเงื่อนไขต่างๆ
  • Formatter การปรับรูปแบบ เช่นเปลี่ยน Format ของวันที่ในไฟล์ Excel
  • Math การใส่ตัวคำนวณทางคนิตศาสตร์ต่างๆ เช่นการใส่สูตร การใส่ตัวคูณ
  • RSS Feed การเชื่อมต่อกับ RSS
  • Sentiment Analysis การวิเคราะห์ข้อความก่อน Automate
  • Timer การใส่ช่วงเวลา Waiting ของ Action ต่อๆไป เช่นรอ 3 วันค่อยส่งข้อมูลชุดนี้ไปที่ Google Sheet
  • Webhooks ที่ให้เราสามารถรอรับ Event จาก Service ของ Partner รายอื่นๆได้

Zapier.com  ก็เป็นอีก 1 MarTech สาย iPaaS ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และได้รับความนิยมทั่วโลก สำหรับ Zapier การทำงานก็จะคล้ายๆ Automate.io คือให้เราเลือก Application ที่เราใช้งานประจำ Zapier จะแนะนำการเชื่อมต่อ ซึ่ง Zapier เรียกรูปแบบการเชื่อมต่อแต่ละแบบว่า “Zap” หลังจากเรา Zap แล้ว Application ต่างๆก็สามารถ Integrate และ Automate ข้อมูลระหว่างกันได้ทันที

โดย Zapier โดดเด่นด้านการมี “Zap” สำเร็จรูปมากกว่า 300+ รูปแบบการเชื่อมต่อ ซึ่งเค้าเคลมว่าตอบคำถามเกือบทุกโจทย์การทำงาน และมี API สำเร็จรูปที่เชื่อมต่อได้เลยกับ Applications  ต่างๆได้เลยกว่า 2,000+

Zapier.com connector

หน้าตาการทำงาน “Zap” ของ Zapier จากภาพด้านล่างซ้าย คือ การเก็บข้อมูลจาก Linkedin Lead Gen ไปที่ Wisible CRM ส่วนภาพด้านล่างขวา คือการเชื่อมต่อข้อมูลกับระบบ Email Automation ชื่อ Sendinblue และการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล MySQL เป็นต้น

ในความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง Zapier เหมาะสมกับการเชื่อมต่อระหว่างApplication เพื่อประโยชน์ด้านการทำงานร่วมกัน หรือ Collaborate และเน้นการทำให้ Workflow การทำงานระหว่างกันในทีมเชื่อมต่อกันราบรื่นยิ่งขึ้น


จาก 2 เครื่องมือข้างบนที่เป็น iPaas ที่เป็นการ Integrate Data เพื่อทำ Marketing Automation แล้วยังมี MarTech กลุ่ม iPaas ที่มีจุดขายคือการ Integrate Data เพื่อการดึง Data มาเก็บไว้ที่ระบบกลางของเรา เพื่อการทำวิเคราะห์ข้อมูล หรือทำ Visualization ได้ละเอียดยิ่งขึ้นนั่นก็คือ

Supermetrics.com
ที่มีความสามารถในการดึง Data จาก Platform ต่างๆมาเก็บไว้ที่ระบบกลางที่เป็น Account ของเรา โดย Supermetrics ก็ได้แยกขาย Product ตามจุดประสงค์การนำ Data ไปใช้งาน และแยกตามระบบกลางที่เราต้องการดึงข้อมูลเก็บ โดยขอยกตัวอย่าง Product ของ Supermetrics ที่น่าสนใจคือ

Supermetrics.com
  • Supermetrics for Google Sheets คือการ Automate data จาก Platform ต่างๆไปเก็บไว้ที่ Google Sheets.
  • Supermetrics for Excel คือการ Automate data มาเก็บที่ไฟล์ Excel ที่เครื่องของเรา
  • Supermetrics for Data Studio การ Automate data มาเป็น 1ใน Data Source ของ Data Studio
  • Supermetrics for BigQuery การ Automate data มาเก็บไว้ Google BigQuery เพื่อเพื่อ Data Warehouse ของเราเอง
  • Supermetrics API คือการแตก Data จาก Platform ต่างๆมาในรูปแบบของ API เช่น JSON หรือการ Feed Data ตรงๆเข้ามาที่ Visualization Tool ต่างๆเช่น Tableau, Qlik, Power BI

สำหรับ Plaform ที่ Supermetrics สามารถเชื่อมต่อได้นั้น มีมากกว่า 40 Platform โดย Supermetrics  เรียกการเชื่อมต่อเหล่านั้นว่า Connector โดยในที่นี้ขอยกตัวอย่าง Connector  ที่ได้รับความนิยมมาดังนี้

Supermetrics.com

และนอกจากการใช้ Supermetrics ดึงข้อมูลเพื่อเก็บใน Sheet หรือ Data Warehouse แบบต่างๆแล้ว นักการตลาดดิจิทัลบางคน ที่คุ้นเคยกับ Google Data Studio อยู่แล้ว และต้องการการดึง Data จากหลายๆ Platform มาทำ Report ได้รวดเร็ว ก็อาจจะเลือกใช้ Supermetrics for Google Data Studio ในการดึงข้อมูลมาเป็น Data Source ตรงๆได้เลย

ข้อดีของการใช้ Supermetrics for Google Data Studio อีกอย่างนึงคือมี Google Data Studio Template ให้ใช้ฟรีๆมากมาย (แต่ต้องซื้อ Connectorนี้) นี่ก็เป็นโมเดลการทำการตลาดที่ฉลาดมากๆของ Supermetrics ที่หาโอกาสจากพฤติกรรมของคนที่พยายามค้นหา Google Data Studio Template ได้เห็น Dashboard สวยๆที่ออกแบบโดยทีม Supermetrics ทำให้เกิดการ Awareness ถึง Supermetrics Product จนนำไปสู่การทดลองใช้ หรือ Trial และซื้อใช้ในที่สุด


Leadsync.me
เครื่องมือกลุ่ม iPaas ขนาดเล็กๆที่มีความสามารถในการส่ง Lead จาก Facebook Lead Ads มาที่ระบบต่างๆได้เช่น

  • ส่ง Lead มาให้ทาง Email
  • ส่ง Lead เข้าไปใน Email Campaign ใน Mailchimp, Sendinblue
  • ส่ง Lead เข้าไปในระบบ CRM ต่างๆเช่น Hubspot, Pipedrive, Zoho CRM
  • ส่งข้อมูล Lead เข้าไปเก็บใน Google Sheet

และนอกจากความสามารถในการส่ง Lead แล้ว Leadsync.me ยังสามารถส่ง Email Autoresponder หรือการส่งอีเมลล์ตอบกลับอัตโนมัติไปหา Lead นั้นๆได้อีกด้วย โดยมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นแค่เดือนละ 280 บาท/เดือน


Parabola.io
เครื่องมือกลุ่ม iPaas ตัวนี้ มีความสามารถด้าน Data ระดับสูง นอกจากการ Integrate Data จาก Platform หรือ Application ต่างๆแล้ว Parabola.io ยังมีความสามารถในด้าน Transform Data ในรูปแบบต่างๆมากมาย  ไม่ว่าจะเป็น

  • การ Sums Value จาก Row, Column
  • การหา Pattern จาก RegEx เพื่อ Replace Value
  • การเพิ่ม Column Date & Time
  • การใช้ Math เพื่อคำนวน บวก ลบ คูณ หาร
  • Complete address with Google Maps การเอา Address หรือ zip code ที่ได้มาไปค้นหาใน Google Map เพื่อทำให้ Data ครบถ้วนขึ้นการ Check และ Duplicate Rows ออก

สรุป ข้อดีของการใช้ iPaas

  • ลดการแรงงานคนเข้าไป Cleansing และ Transform Data
  • ลดข้อผิดพลาดจากแรงงานคน (Human Error)
  • รวมข้อมูลจาก Source ต่างๆมาที่ Dashboard เดียวกันได้
  • ตั้งเวลาการ Refresh หรือ Fetch ข้อมูล เวลาไหนก็ได้ของวัน
  • เนื่องจากมีเก็บ Data ไว้ที่ Warehouse หรือ Spreadsheet ของเราเอง ทำให้ดึงDataย้อนหลังได้ตั้งแต่วันแรกที่เก็บข้อมูลเข้ามา
  • สามารถดู Insight ได้ลึกกว่า เนื่องจากเราสามารถใช้เครื่องมือ Visualization เฉพาะทาง เช่น PowerBI, Tableau ดึงข้อมูลมาหมุนดูได้หลากหลายมิติกว่า

    อ่าน Review เครื่องมือในกลุ่ม iPaas เพิ่มเติมที่นี่
หนังสือการตลาด

Similar Posts