Google Trends เครื่องมือMarTech แบบฟรีๆ พร้อม7ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในโจทย์ธุรกิจ
เครื่องมือฟรีของ Google ที่เปิดให้เราเข้าไปดูกระแสความนิยม ว่าแต่ละช่วงเวลา มีคนใช้ Google ค้นหาประเด็นหรือ Topic อะไรบ้าง , สามารถดูหัวข้อที่เกี่ยวข้อง และปริมาณการค้นหาตามภูมิภาคต่างๆได้
หลายๆคนคงจะรุ้จัก Google Trends ที่เป็นเครื่องมือฟรีของ Google ที่เปิดให้เราเข้าไปดูกระแสความนิยม ว่าแต่ละช่วงเวลา มีคนค้นหาประเด็นหรือ Topic อะไรบ้างใน Google Trends
วิธีการใช้งาน Google Trends อย่างละเอียด
หน้าแรก trends.google.co.th จะมีหน้าตาหรือ User Interface ประมาณนี้ครับ
- ช่องค้นหา = เราสามารถค้นหาหัวข้อ หรือ Topics ที่สนใจได้
- ช่องเลือกประเทศ = เป็นการกำหนดผลลัพธ์การค้นหาเฉพาะประเทศ
- Example ด้านล่าง = Google ดึงหัวข้อ หรือ Topics ที่ได้รับความสนใจอยู่บ่อยๆ มาให้ดูเป็นตัวอย่ง
ภาพแรกสุด เราสามารถเปรียบเทียบ หรือ Compare กระแสการค้นหาชื่อนักร้องระหว่าง Taylor Swift และ Kim Kardashian ได้
ภาพกลาง เราสามารถดูกระแสค้นค้นหาคำว่า World Cup ตามภูมิภาคได้
ภาพขวาสุด เราสามารถเปรียบเทียบการค้นหา Football และ American football ว่าแต่ละเมืองแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
หน้าจอเมื่อเลื่อนมาด้านล่าง
คือหัวข้อที่เป็นกระแส (Trends) อยู่ในปัจจุบัน จากที่ดึงข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2564
นอกจากการเปิดให้เราค้นหา Trends ต่างๆได้แล้วทาง Google Trends ก็ได้มีการรวบรวม Trends ยอดนิยมในแต่ละปี ให้เราสามารถเข้าไปดูประวัติแต่ละปีได้อีกด้วย
ตัวอย่างข้อมูล Google Trends ยอดนิยมในปี 2020 โดยแบ่งเป็นกลุ่มต่างๆได้แก่
กลุ่มคำค้นหาประจำปี 2563 ได้แก่
- เราไม่ทิ้งกัน
- คนละครึ่ง
- โควิด-19
- DLTV (การเรียนออนไลน์ของนักเรียน)
- เยียวยาเกษตรกร
หน้าตาการใช้งาน Google Trends
จากภาพด้านล่างคือการทดลองค้นหา Trend ของคำว่า “Bitcoin”
ความสามารถในการปรับแต่ง หรือ Filter ข้อมูลได้แก่
- เลือกประเทศ : แต่ละประเทศก็มี Trend ที่ให้ความสนใจไม่เหมือนกัน
- ระยะเวลาการดึงข้อมูลย้อนหลัง : จากภาพเราดึงข้อมูลย้อนหลัง 10 เดือน จะเป็นว่า Spike (ยอดกราฟสูงสุด) อยู่ในวันที่ 16-22 พฤษภาคม
- หมวดหมู่ที่ต้องการค้นหา : Google Trends เปิดให้เราเจาะดูความสนใจแยกย่อยความหมวดหมู่ได้
- ประเภทหรือแหล่งที่ต้องการค้นหา : Google Trends เปิดให้เราเจาะดูว่าหัวข้อนี้ คนทั่วไปสนใจข้อมูลจากการค้นหารูปแบบไหน ระหว่าง ค้นหาWebsite, ค้นหารูปภาพ, ค้นหาข่าว, ค้นหาวีดีโอ
- Export ข้อมูลออกมาดูเป็น CSV : เราสามารถ Export ข้อมูลออกมาเป็นไฟล์ CSV ที่เปิดด้วย Excel ได้อีกด้วย
- ส่วนคะแนน 0-100 คือปริมาณการค้นหาหัวข้อนั้นๆ ที่ Google จัดไปเป็น Index
จาก Trends Line ที่ Google Trends ดึงข้อมูลออกมาให้ดู จะเห็นว่า กระแสคำว่า “Bitcoin” พุ่งสูงในช่วงเดือน Jan2021 และ Spike สุด (Value100) ในช่วง 16-22 May 2021 ที่ผ่านมา
คะแนน (Value) สูงสุดที่ 100 หมายความว่า จุดหรือวันนั้น มีความสนใจที่จะค้นหาหัวข้อนั้นๆมากที่สุด (เทียบทั้งหมดในช่วงเวลา ที่ดึงข้อมูลออกมา)
Simon Rogers Data journalist, and Data Editor at Google.
อีก Feature ที่น่าสนใจจาก Google Trends คือการดึงหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการค้นหา และคำค้นหาที่เกี่ยวข้องมาให้อีกด้วย
จากตัวอย่างคำว่า “Bitcoin” จะเห็นคำที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสะท้อนถึง Intent หรือ Behavior ในเรื่องนั้นๆ
วิธีการประยุกต์ใช้ Google Trends
1. Real Time Content Marketing
หรือการจับตาดู Google Trends ว่าประเด็นอะไรกำลังอยู่ในกระแส จึงทำ Creative Content เกาะกระแสนั้นๆ
ตัวอย่าง จากน้ำเต้าทอง ที่เกาะกระแส Bitcoin
2. Discover Related Topics
หาหัวข้อ ใกล้เคียงกับหัวข้อที่เราสนใจ จากการค้นหาคำว่า “Bitcoin” จะเห็นว่ามีหัวข้อที่คนให้ความสนใจเช่นกัน คือ
- Ethereum
- Bitcoin Cash
- Bitkub
- Dogecoin
- Trade – Financial instrument
- Ethereum
- Bitcoin Cash
- Bitkub
- Dogecoin
- Trade – Financial instrument
3. Interest by Location
ด้วยความสามารถของ Google Trends เราสามารถเจาะดูระดับเมืองได้ว่า หัวข้อ “Bitcoin” ได้รับความนิยม. หรือความสนใจในเมืองหรือ City ไหนมากกว่ากัน จากภาพจะเห็นว่าพัทยา เกาะสมุย มีความสนใจใน หัวข้อ “Bitcoin” มากที่สุด
4. Idea for Video Creator
Google Trends สามารถ Filter ดูเฉพาะ Youtube ได้ ทำให้เราสามารถ Research Idea ในการทำ Video Content ใหม่โดยอาศัยข้อมูลจาก Google Trends > Youtube Search
จากภาพค้นหา Trends ความสนใจหัวข้อ “ข้าว” ใน Youtube Search จะเห็นได้ว่า Trends ขณะนี้คนสนใจเรื่อง ข้าวขาหมู และข้าวผัดปลากระป๋อง ส่วน วุ่นวาย สตอรี่ คือช่อง Youtube ที่กำลังอยู่ใน Trends
5. Seasonal Trends
เนื่องจาก Google Trends เปิดโอกาสให้เราดึงข้อมูลย้อนหลังได้ถึง5 ปี. ทำให้เราสามารถมองย้อนหลังไปได้ว่า ในแต่ละช่วง (อาทิตย์หรือเดือน) มี Pattern ความสนใจอะไรบ้าง ที่เข้าข่ายเป็นกระแสตามฤดูกาล หรือ Season Trends
ตัวอย่าง ช่วงสงกรานต์ของทุกปี จะมีวัยรุ่นย้อมผมสีสันต่างๆมาเล่นน้ำสงกราต์ ทำให้ความนิยมในการค้นหา “ยาย้อมผม” พุ่งสูงทุกๆเดือนเมษายนของทุกปี
6. Market Demand Research
ดูข้อมูลสินค้า (หรือบริการ) ว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นและลดลงอย่างไรบ้าง เพื่อนำไปวิเคราะห์ว่า Factor อะไรทำให้เกิดการ สูง หรือต่ำลงของ Demand ตัวอย่าง Market Demand Research ของคำว่า “ฝากประจำ”
จะเห็นได้ว่าหลังจากปี 2009 เป็นต้นมา ความสนใจในเรื่องการเก็บเงินแบบ “ฝากประจำ” ก็ลดต่ำลงมาตลอด อาจจะสะท้อนว่าคนหันไปให้ความสนใจในการลงทุนด้านอื่น
และเมื่อดู Demand ในเรื่องของ “Crypto” จะเห็นได้ว่า หัวข้อนี้ได้รับความสนใจครั้งแรกช่วงปี 2018 แต่เพิ่งได้รับความสนใจสูงสุด ในช่วง พฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา
7.Product Comparison
ใช้ความสามารถในการเปรียบเทียบ (Compare) หลายๆ Topics เข้าด้วยกันของ Google Trends ทำให้เราสามารถนำไปใช้เพื่อเปรียบเทียบความสนใจในสินค้าแต่ละประเภทได้
ตัวอย่าง เราอยากรู้ว่าถ้าคนค้นหาหัวข้อเกี่ยวกับอาหาร คนจะค้นหาอะไรมากกว่ากันระหว่าง
ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู บะหมี่ อาหารตามสั่ง
จาก Google Trends จะเห็นว่า 5 ปีที่ผ่านมา ข้าวมันไก่ได้รับความนิยมสูงสุดในเกือบทุกยุค อาจจะมีแพ้บะหมี่บ้างในบางช่วง แต่รวมๆแล้วก็สะท้อน Demand ว่าในบรรดาอาหารทั้งหมด คนสนใจข้าวมันไก่มากที่สุด
ติดต่อขอรับคำปรึกษาด้าน Marketing และ Technology
- ให้คำปรึกษาตั้งแต่การวาง Technology Roadmap
- การเลือกเครื่องมือที่ตอบโจทย์ธุรกิจที่สุด
- การวาง Data Foundation ให้รองรับสเกลของธุรกิจ
- การ Implement Platform อย่างมีระบบ
- การทำ Change Management และการติดตามการ Adoption
- ควบคุมการบริหารโครงการด้วยผู้มีประสบการณ์ตรง
- รับจำนวนจำกัดไม่เกิน 2 Projects / เดือน
Email : [email protected]
Reference
https://support.google.com/trends/answer/4365533?hl=en
https://www.searchenginejournal.com/google-trends-seo/226809/#close
https://www.oberlo.com/blog/google-trends
https://www.semrush.com/blog/google-trends/
https://www.hallaminternet.com/google-trends-introduction-business/
https://smallbusinessbc.ca/article/how-use-google-trends-perform-market-research/